ออทิสติกเทียม (Virtual autism)

     ออทิสติกเทียม (Virtual autism) เป็นภาวะที่เกิดจากการเลี้ยงดูหรือสภาพแวดล้อม พฤติกรรมของเด็กที่มีลักษณะคล้ายออทิสติก ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมหรือความผิดปกติของสมอง 

  • เด็กที่เลี้ยงดูด้วยหน้าจอมากเกินไป เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เด็กอาจไม่สนใจสิ่งรอบตัว ไม่ชอบเล่นกับผู้อื่น พูดช้า หรือพูดซ้ำ ๆ เนื่องจากหน้าจอได้ดึงดูดความสนใจของพวกเขาไปหมด
  • เด็กที่ขาดการกระตุ้นทางสังคม เช่น เด็กที่พ่อแม่แยกตัวจากสังคม เด็กที่ไม่ค่อยได้เล่นกับเพื่อน ๆ เด็กเหล่านี้อาจไม่เข้าใจภาษากายของผู้อื่น ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ของสังคม และมีปัญหาในการเข้าสังคม
  • เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า เช่น เด็กที่มีปัญหาทางพัฒนาการ เช่น พัฒนาการทางสติปัญญา พัฒนาการทางภาษา พัฒนาการทางอารมณ์ ฯลฯ เด็กอาจแสดงพฤติกรรมคล้ายออทิสติกได้เช่นกัน

     พฤติกรรมของออทิสติกเทียมอาจคล้ายกับออทิสติกแท้ แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลที่พบบ่อย ได้แก่

  • มีปัญหาในการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ทางสังคม เช่น ไม่สบตา ไม่มองหน้า ไม่สนใจผู้อื่น ไม่ชอบเล่นกับผู้อื่น พูดช้าหรือพูดซ้ำ ๆ
  • มีพฤติกรรมซ้ำ ๆ เช่น ชอบวนซ้ำ ๆ ชอบเล่นกับสิ่งของเดิม ๆ ชอบจัดเรียงสิ่งของ
  • มีความสนใจในบางสิ่งบางอย่างมากจนเกินไป เช่น สนใจในสิ่งของเฉพาะเจาะจง สนใจในสิ่งเร้าเฉพาะเจาะจง
  • มีอารมณ์แปรปรวนง่าย เช่น โกรธง่าย โมโหง่าย หงุดหงิดง่าย

     แนวทางการป้องกันออทิสติกเทียมที่สามารถทำได้ ดังนี้

  • จำกัดการใช้สื่อหน้าจอ สื่อหน้าจอสามารถดึงดูดความสนใจของเด็กได้เป็นอย่างมาก ทำให้เด็กไม่สนใจสิ่งรอบตัว ไม่ชอบเล่นกับผู้อื่น และอาจมีปัญหาในการเข้าสังคมได้ ดังนั้น ผู้ปกครองควรจำกัดการใช้สื่อหน้าจอของเด็กให้เหมาะสม โดยเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ควรหลีกเลี่ยงการใช้สื่อหน้าจอทุกชนิด หากเด็กอายุมากกว่า 2 ปี ควรจำกัดการใช้สื่อหน้าจอไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน
  • ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม เด็กที่ขาดการกระตุ้นทางสังคม อาจมีปัญหาในการเข้าสังคมได้ ดังนั้น ผู้ปกครองควรส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคมของเด็ก โดยพาเด็กไปเล่นกับเพื่อน ๆ หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ สอนให้เด็กรู้จักทักทาย รู้จักเล่นร่วมกับผู้อื่น รู้จักแบ่งปัน รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น
  • ส่งเสริมพัฒนาการด้านอื่น ๆ เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้า อาจแสดงพฤติกรรมคล้ายออทิสติกได้ ดังนั้น ผู้ปกครองควรส่งเสริมพัฒนาการด้านอื่น ๆ ของเด็ก โดยเล่นกิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ เช่น ทักษะด้านร่างกาย ทักษะด้านอารมณ์ ทักษะด้านสติปัญญา และทักษะด้านภาษา
  • สังเกตพัฒนาการของเด็กอย่างใกล้ชิด หากพบว่าเด็กมีพฤติกรรมคล้ายออทิสติก ควรพาไปพบแพทย์หรือนักบำบัดเพื่อประเมินอาการและหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม